trinity-abstract.com

trinity-abstract.com

ประโยค S V1 — กฎในการเติม S และ Es หลัง V1 (กริยาช่องที่1) | English Room

Thu, 11 Aug 2022 18:44:24 +0000
บาน-กลางเมอง-s-sense-พระราม-9-ลาดพราว

ประโยคปฎิเสธให้เติม not หลัง did ได้เลย did not (didn't) Note: เมื่อนำเอา did มาใช้ในประโยคกริยาแท้จะต้องเปลี่ยนเป็นช่องที่1เหมือนเดิม คำว่า be กระจายรูปเป็น is am are (present) was were (past) was angry because they were late. Was it sunny when you went out? Present Continuous Tense (Progressive Tense) โครงสร้าง S+ is, am, are +Ving ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดหรือการกระทำนั้นๆยังไม่สิ้นสุดลง I'm going to the market now. They are watching their favorite television program. I am playing with a He, She, It is coming home. You, We, They are reading a book. เมื่อต้องการทำเป็นประโยคคำถามให้นำเอาV to be มาวางไว้หน้าประโยคได้เลย Am I ball? Is he, she, it home? Are you, we, they book? เมื่อต้องการทำเป็นประโยคปฎิเสธก็เติม not หลัง V to be ได้เลย not He, She, It is not(isn't) is coming You, We, They are not(aren't) are reading a Past Continuous Tense (Progressive Tense) โครงสร้าง S+Vtobe(was, were) +Ving ใช้เพื่อบรรยายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตแล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก เหตุการณ์ที่กำลังกระทำหรือกำลังเกิดขึ้นใช้ past continuous เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกใช้ past simple While Jeda was eating breakfast, the mailman came.

พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมคงจะกำลังเรียนอยู่ I will be working when you finish your work. ผมคงจะกำลังทำงานอยู่ เมื่อคุณเลิกงานแล้ว 7. Present Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจะใช้ since, for ร่วมด้วยเสมอ หรือบอกเล่าถึงสิ่งที่เพิ่งจะจบลงหมาด ๆ โครงสร้างไวยากรณ์: S + have, has +V3 ตัวอย่างประโยค: I have worked in Japan since 2010. ฉันทำงานที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2010 Nancy has stayed with me for 10 months. แนนซี่อยู่กับฉันมา 10 เดือนแล้ว I have already finished my homework. ผมเพิ่งทำการบ้านเสร็จ 8. Past Perfect Tense ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แน่ชัด หรือใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต โดยจะใช้ Past Perfect Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนเสมอ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังใช้ Past Simple Tense โครงสร้างไวยากรณ์: S + had +V3 ตัวอย่างประโยค: Two students had gone before the teacher came to the room. นักเรียนสองคนออกไปจากห้องแล้ว ก่อนที่ครูจะเข้ามา Before I met her, I had met Sandy. ก่อนที่ฉันจะเจอเธอ ฉันเจอแซนดี้ 9.

She has known him since last year. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงโดยไม่ได้ระบุเวลา We have washed our hands. I have just had a snack. ใช้ present perfect tense เพื่อให้ข้อมูลใหม่หรือประกาศให้ทราบกับสิ่งเพิ่งเกิด Ouch! I have just cut myself. การใช้ just already yet ในประโยค present perfect just = เพิ่งจะ Suda has just arrived home. already =เรียบร้อยแล้ว A: Don't forget to phone the restaurant. I've already phoned to make a reservation. yet =ยัง ใช้กับประโยคปฎิเสธและประโยคคำถาม She hasn't finished her letter yet. Has it stopped raining yet? ใช้กับคำว่า today, this morning, this evening กับเวลาที่ยังไม่สิ้นสุดในขณะที่พูด I've drunk three glasses of water today. เมื่อต้องการทำเป็นประโยคคำถามให้เอา V to have (has, have)มาวางไว้ประโยค ได้เลย Have you, we, they, finished? เมื่อต้องการทำเป็นประโยคปฎิเสธให้เติม not หลัง verb "to have" (has, have) have(haven't) played a game. He, She, It has not (hasn't) read a You, We, They have not (haven't) driven a car. Perfect tense โครงสร้าง S+ had+V3 ใช้แสดงความสัมพันธ์ของสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วไปแล้วในขณะที่กำลังพูด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเราใช้ Past Perfect tense ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังเราใช้เป็น past simple tense When Paul arrived, Mary had just left.

กลายเป็นปัญหาภาษาอังกฤษที่สร้างความปวดหัว งุนงง ให้น้อง ๆ หลายคนจริง ๆ สำหรับหลักการใช้ Tense ทั้ง 12 แบบ ที่ต้องทำความเข้าใจกันซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้จะเรียนกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นก็ดูเหมือนว่าจะยังคงสับสนอยู่ดี วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอพูดถึงหลักการใช้ Tense กันเสียหน่อย เพื่อให้น้อง ๆ ได้ลองทำความเข้าใจกันใหม่อีกครั้งนะคะ เอ้า สูดหายใจเข้าไปลึก ๆ แล้วไปทบทวนพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 1. Present Simple Tense ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน โครงสร้างไวยากรณ์: S + V1 ตัวอย่างประโยค: I study at Harvard University. ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด The Sun rises in the east. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก He calls me honey. เขาเรียกฉันว่าที่รัก 2. Past Simple Tense ใช้เพื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต และตอนนี้ทุกอย่างก็ได้จบลงแล้ว โครงสร้างไวยากรณ์: S + V2 ตัวอย่างประโยค: I lived in Germany. ฉันเคยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี Daddy called me last night. พ่อโทรมาหาฉันเมื่อคืน 3. Future Simple Tense ใช้เพื่อบอกความตั้งใจ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โครงสร้างไวยากรณ์: S + will, shall + V1 ตัวอย่างประโยค: I will go to Japan next month.

1. เติม s ได้ทันที่หลังคำกริยาปกติทั่วๆ ไป walk – walk s eat – eat s read – read s move – move s swim – swim s listen – listen s 2. เติม es หลังคำหริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, z และ o เช่น dress – dress es kiss – kiss es teach – teach es wash – wash es fix – fix es go – go es 3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es เช่น study – stud ies cry – cr ies fly – fl ies try – tr ies ** ยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ( a, e, i, o, u) ให้เติม s ได้เลย เช่น play – play s buy – buy s stay – stay s say – say s

ประโยค s v1 movie
  • ประโยค s v1 e
  • ประโยค s v1 v2
  • ประโยค s v1 test
  • ประโยค s v1.4
  • ประโยค s v1 logo
  • Past simple tense Tense ทั้ง 12 ใช้อย่างไร
  • ประโยค s v1.6
  • ประโยค s v1 movie
ประโยค s v1.0

be going to ใช้กับความตั้งใจว่าจะทำ ใช้กับหลักการความจริงไม่ได้ ประโยคบอกเล่า S + will/shall + V. 1 ประโยคคำถาม Will/Shall + A + V. 1 ประโยคปฏิเสธ S + will/shall + not + V. 1 / S + is/am/are + not + going to + V. 1 10. Future Continuous Tense เหตุการณ์ที่จะทำต่อเนื่องในอนาคต มีตัวบ่งบอกเวลาเด่นชัดด้วย at…, when I… ประโยคบอกเล่า S + will/shall + be + ประโยคคำถาม Will/shall + S + be + ประโยคปฏิเสธ S + will/shall + not + be + 11. Future Perfect Tense การกระทำที่จะสิ้นสุดลงเมื่อถึงเวลาหนึ่งในอนาคต มีคำว่า by อยู่ด้วย เช่น by tomorrow, by next…, etc. S + will/shall + have + V. 3 12. Future Perfect Continuous Tense พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและจะต่อเนื่องไปจนภายหลัง by that time, by next… ขึ้นนำหน้า S + will/shall + have been +

Tenses Present Simple Tense ใช้กับ การกระทำที่ทำเสมอจนเป็นนิสัย เหตุการณต่างๆที่เกิดขึ้นปกติเสมอ (Adv. Of frequency) habits always true Always, sometimes, seldom, never เหตุการณ์ที่เป็นความจริง รูปประโยค ประโยคบอกเล่า S. + V1 ประโยคคำถาม V1 to do + S. + V1 (no 's') ประโยคปฏิเสธ S. + don't/doesn't + V1 (no 's') Past Simple Tense เหตุการณ์ที่เกิดและจบลงในอดีต yesterday, last…, ago, once, etc.

He, She, It plays with a ball. comes home. I, You, We, They read a book. drive a car. เมื่อเราต้องการทำเป็นประโยคปฎิเสธและประโยคคำถามให้เอา V to do(do, does) มาเป็นกริยาช่วยในประโยคคำถามที่เป็นแบบ yes-no questionsให้เอา do, does วางไว้หน้าประโยค Do you, we, they, I study? ให้เอา V to do(do, does)มาช่วยในประโยคคำถามแบบ wh-questions เช่น Where do you come from? I come from Surin. How do you do? ประโยคปฎิเสธให้เติม not หลังคำ do, does He, She, It does not (doesn't) work. do not (don't) study. Note: เมื่อเอา V to do มาใช้ในประโยคปฎิเสธและประโยคคำถามกริยาแท้ไม่ต้องเติม s หรือ es Past Simple Tense โครงสร้าง S+V2 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบสิ้นลงไปแล้วในอดีตและมักจะมีคำบอกเวลาอยู่ด้วย เช่นคำว่า yesterday, last week, last month, last year, last summer, ago We went to Canada last summer. My family came to visit me last week. เมื่อเราต้องการทำเป็นประโยคปฎิเสธและประโยคคำถาม ให้นำเอา V to do(did) มาช่วย Did work? do(did)มาช่วยในประโยคคำถามแบบ wh-questions เช่น What did you do? I cleaned my car.

Present Perfect Tense = S + have/has + Verb 3 ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน He has lived in London since 1996. I have studied French for 6 years. ใช้กับเหตุการณ์ ที่เคยหรือไม่เคยทำในอดีต I have never seen him. Have you ever been to Australia? ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงไปใหม่ๆ He has just gone out. I have already closed the window. ส่วน Present Perfect Continuous Tense S + have/has + been + ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และ คงต่อเนื่องไปอีกในอนาคต Tense นี้ใช้คล้ายกับ Present Perfect Tense มาก แต่ต่างกันตรงที่ว่า เน้นความต่อเนื่องไปในอนาคต ส่วน Tense แรกไม่ได้กล่าวถึงอนาคตต่อไป I have been working here for ten years. ฉันได้ทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว (และจะทำต่อไปอีก)