5 จะประสาน ตรวจสอบข่าว กับ สถานทูตรัสเซียฯ ก่อนนำเสนอข่าวว่า จริงหรือไม่ และจะนำเสนอหรือไม่ พร้อมนำเสนอข่าวกิจกรรมต่างๆของ รัสเซีย ก็ตาม แต่ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ด้วยเหตุที่ รัฐบาลไทย โดย พล. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม และ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศจุดยืน ผ่านเวทีสหประชาชาติ ในความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด และ ต้องการให้รัสเซียยุติการใช้ความรุนแรง รุกรานยูเครน ไปแล้วก่อนหน้านั้น แต่ ททบ. 5 คือ สื่อของกองทัพบก เป็น หน่วยงานของรัฐบาล จึงส่งผลให้ถูกมองว่า รัฐบาล พล. ประยุทธ์ ยักคิ้วหลิ่วตา ประกาศว่าเป็นกลาง แต่ให้สื่อกองทัพ สนับสนุนรัสเซีย จึงเกิดประเด็นขึ้น แน่นอนว่า ที่เรื่องนึ้ มีแรงสั่นสะเทือนมาก เพราะ ททบ. 5 กำลังกลายเป็นเป้าทางการเมือง หลังจากที่ ทีมงาน ท็อปนิวส์ เข้ามาทำรายการข่าว และผลิตรายการให้ จนถูกมองว่า ททบ. 5 เป็นเครื่องมือ ในการโจมตี ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และ เชียร์ พล.
0 และการพัฒนาห่วงโซ่การผลิตที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพร้อมสู่เศรษฐกิจ 4. 0 ในพื้นที่เหล่านี้ EEC เปรียบเสมือนจรวดที่จะพาประเทศไทยก้าวพ้นประเทศรายได้ปานกลาง และพาไทยสู่ยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง แต่จรวดนี้อาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนา และความไม่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้ รัฐบาลจึงต้องมีนโยบายอื่นควบคู่เพื่อให้ประเทศไทยทุกจังหวัดสามารถโตไปพร้อม ๆ กัน อ้างอิงข้อมูลจาก โครงการวิจัย "การย้ายถิ่นของแรงงานบนระเบียง EWEC-SEC: สถานการณ์ เส้นทาง แนวโน้ม และผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม" หัวหน้าโครงการ: เรณู สุขารมณ์ สนับสนุนโดย: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว. ) เรียบเรียง ไท วัฒนา กราฟิก ณัฐวิมล อชินีทองคำ
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) เป็นนโยบายสำคัญของประเทศในฐานะที่เป็นโครงการนำร่อง Thailand 4. 0 เป็นกลไกยกระดับความสามารถทางเทคโนโลยี และเป็นประตูการค้า การท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นประตูบริการทางการแพทย์ที่สำคัญของประเทศไทยสู่ประชาคมอาเซียน EEC มีศักยภาพที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในอนาคต แต่ในขณะเดียวกันการพัฒนา EEC อาจเป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำและการพัฒนาที่ไม่สมดุลของประเทศไทยได้ด้วยเช่นกัน การพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เป็นโครงการที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาตามกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) และกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ 4.
กลุ่มลูกค้าต่างชาติจับจองซื้อ/เช่า คอนโดมิเนียมจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เกิดการลงทุนจากนานาประเทศที่จะเข้ามาสู่ภูมิภาคตะวันออก ทำให้การหาที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม บ้าน ของกลุ่ม Expat ชาวต่างชาติมากขึ้นตามไปด้วย และยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงนอกจากกลุ่ม Expat แล้ว ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการมาเกษียณที่ไทยอีกจำนวนมาก ชาวต่างชาตินิยมมาปลดเกษียณที่ไทยเป็นอันดับ 9 ของโลก อีกด้วยค่ะ จากปัจจัยการหลั่งไหลของผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักท่องเที่ยว จะทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมในวงการอสังหาฯค่ะมาถึงตรงนี้หลายท่านคงพอจะทราบแล้วใช่มั้ยคะ? ว่า EECจะส่งผลกระทบไปในทิศทางใดต่อวงการอสังหาฯบ้านเราในอนาคตอันใกล้นี้ แน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง หากว่าคุณเริ่มสนใจในการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ขอให้ BR Agent เป็นอีกทางเลือกเพื่อให้คุณลงทุนได้อย่างตรงจุด ติดตามข้อมูลข่าวสารดีๆทุกสัปดาห์ได้ที่ Website: LINE@: Facebook: Instagram:
ณรงค์พันธ์ และ พล. เจริญชัย ยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งหากมองไปที่ พล. สนิธชนก แล้วก็ถือว่าเป็นเต็งหนึ่ง ที่จะขึ้นปลัดกลาโหมในโยกย้ายตุลาคมนี้ เลยเพราะเป็นลูกรักของ พล. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่ และก็เป็นน้องรักของพล. ประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน จึงถูกมองว่าจะขึ้นเป็นปลัดกลาโหมนั่งยาว 3 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นกระแสข่าวเหล่านี้ จึงเป็นแค่ข่าวลือที่สร้างความหวาดระแวง เกิดขึ้นในกองทัพเพราะ แต่ละคนก็ล้วนมีพลัง มีกองหนุน มีแบ็คอัพ ยากที่ใครจะมาย้ายใครเด้งใคร ดังนั้น พล. เจริญชัย ก็คงต้องรอจนกว่าพล. ณรงค์พันธ์ เกษียณตุลาคม 2566 แล้วค่อยขึ้นนั่งเป็น ผบ. คอแดง คนที่ 3 แม้จะแค่ปีเดียวก็ตาม แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นเฮือกสุดท้าย ปีสุดท้ายของ พล. ประยุท ธ์ แล้ว ก่อนจะมีการยุบสภาฯหรืออยู่จนครบเทอม และเลือกตั้งใหม่ วัดดวงว่า จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ ดังนั้น ก่อนไป อาจมีการทิ้งทวน หรือไม่ อย่างไร ต้องจับตาดู กันต่อไป
ณรงค์พันธ์ ข้ามไปเป็น ปลัดกลาโหม เพื่อเปิดทางให้ พล. เจริญชัย ขึ้นเป็น ผบ. เร็วขึ้น เพื่อมาช่วยดูแล พล. ประยุทธ์ ที่เติบโตจาก ร. 21 รอ. ด้วยกันมา แต่ทว่า พล. ณรงค์พันธ์ ก็มีแบ็คอัพแข็งแกร่ง เป็น ผบ. คอแดง ที่ใช่ใครจะมาย้าย ได้ง่ายๆ อีกทั้ง ไม่มีความผิดอะไร ที่จะเด้งไปเป็นปลัดกลาโหมดังนั้นจึงเป็นแค่กระแสข่าวลือที่ปล่อยออกมาทำให้เกิดความหวาดระแวงกันเองระหว่าง พล. ณรงค์พัน ธ์ และ พล. เจริญชัย ที่ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกันอยู่ และทำให้เกิดความหวาดระแวงแม้แต่ระหว่างพล. ประยุทธ์ กับพล. ณรงค์พันธ์เอง ไม่แค่นั้นกระแสข่าวลือบางกระแสก็ไปถึงขั้นที่ว่า พล. ณรงค์พันธ์ จะ ส่ง พล. เจริญชัย ข้ามไปเป็น ปลัดกลาโหม ในโยกย้ายตุลาคมนี้ เพื่อขัดตาทัพ 2 ปี ก่อนที่ "บิ๊กหนุ่ม" พล. สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม เตรียมทหารรุ่น 24 จะขึ้นปลัดกลาโหม เพราะมองว่าถ้าขึ้นตุลาคม 2565 นี้เลย พล. สนิธชนก จะนั่งยาวถึง3 ปี ควรให้รุ่นพี่ขึ้นก่อน แต่แน่นอนว่า พล. เจริญชัย ย่อมไม่แฮปปี้กับกระแสข่าวลือนี้ เพราะลุ้นเก้าอี้ผบ. อยู่ แต่กลับมีข่าวจะถูกเตะ มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ซะแล้ว ก็ยิ่งสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่าง พล.